พาเที่ยวและทำกิจกรรมสนุก ๆ ที่ Coro Field (โคโรฟิลด์)…ฟาร์มเมล่อน Organic แห่งใหม่ของไทย


เราได้มีโอกาสไปร่วมงานเปิดตัวรอบสื่อของฟาร์มเมล่อน Organic แห่งใหม่ของไทย ที่ชื่อว่า “Coro Field (โคโรฟิลด์)” ตั้งอยู่ที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวแนว Lifestyle Farming รูปแบบใหม่ที่น่าสนใจ เหมาะกับ Lifestyle ของคนยุคใหม่ในปัจจุบัน ซึ่งฟาร์มได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว! ชวนเพื่อน ชวนพี่น้อง พาเด็ก ๆ และครอบครัว ไปเที่ยวกันได้เลย!!

วันนี้เราจะพาทุกคนมาชมบรรยากาศและวิวสวย ๆ รอบฟาร์ม พร้อมทั้ง แนะนำกิจกรรมสนุก ๆ ภายในฟาร์ม เพื่ออุ่นเครื่องกันสักเล็กน้อยก่อนจะมาเที่ยวกัน โอเคพร้อม! ลุย! ^_^

27begin_coro-field_2

“Coro Field (โคโรฟิลด์)” ตั้งอยู่บริเวณริมถนนราชบุรี-ผาปก ตำบลป่าหวาย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 3 ชั่วโมง พอใกล้ถึงจะมีป้ายชื่อฟาร์มขนาดใหญ่ติดอยู่ด้านหน้า มองเห็นได้ชัดเจน และมีที่จอดรถไว้บริการด้านหน้าฟาร์มด้วย

27begin_coro-field_3

เดินเข้ามาภายในฟาร์ม จะพบกับ Mascot น่ารัก ๆ ชื่อว่า “โคโรโระคุง” ตัวขาวอวบ ยืนยิ้มต้อนรับแขกผู้มาเยือน และภายในฟาร์มก็จะมีเจ้า “โคโรโระคุง” ในอิริยาบทท่าทางต่าง ๆ กันไป ไว้ให้เก็บภาพประทับใจน่ารัก ๆ ด้วย

27begin_coro-field_4

โครงสร้างอาคารต่าง ๆ ภายในฟาร์ม ออกแบบและตกแต่งแบบ Minimal Style โดยทีมสถาปนิก IF (Integrated Field) เน้นความเรียบง่าย ใช้โทนสีขาว ดูสว่าง สะอาด สบายตา ตกแต่งอย่างมี Detail ด้วย Furniture ไม้ และไม้ประดับ เช่น บอนไซ, Cactus ฯลฯ ให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ

27begin_coro-field_5

เราได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง จากเจ้าของฟาร์มสองพี่น้อง “Coro Brothers” คือ คุณพีทและคุณพอร์ช และพนักงานทุกคนต้อนรับด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ให้บริการอย่างดีมาก เริ่มต้นเสริฟความสดชื่นให้เราด้วย Welcome Drink เป็น “Melon Cream Cheese Smoothie” รสชาติเปรี้ยวอมหวาน หอมกลิ่นเมล่อนและครีมชีสละมุนมาก อร่อยดี เดินทางมาเหนื่อย ๆ ทานแล้วรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันทีเลย

27begin_coro-field_6

คุณพีทและคุณพอร์ช สองพี่น้อง “Coro Brothers” ได้พูดคุยและแนะนำให้เรารู้จักกับ Coro Field ในภาพรวมทั้งหมด พร้อมทั้ง เป็นผู้นำชมโซนต่าง ๆ ภายในฟาร์มด้วย

27begin_coro-field_7

Coro Field (โคโรฟิลด์) เป็นคำพ้องเสียงที่มาจากคำว่า Chlorophyll (คลอโรฟิลล์) สารให้ความรู้สึกสดชื่น ช่วยเติมพลังในชีวิต แยกความหมายออกเป็น 2 คำ คือ

Coro (โคโร) ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “เวลา” และ Field (ฟิลด์) หมายถึง “สนามกว้าง ๆ” สื่อถึงการมีอิสรภาพ

Coro Field (โคโรฟิลด์) จึงมีความหมายโดยรวมว่า สนามสีเขียวกว้าง ๆ ที่ทำให้ผู้คนที่เข้ามาสัมผัส ได้มีอิสรภาพในความเป็นตัวเอง และได้สัมผัสชีวิตแบบ “Coro Life” คือ การพักผ่อนเติมพลังให้กับชีวิต ดื่มด่ำกับช่วงเวลาและจังหวะชีวิตที่ช้าลง แต่เต็มไปด้วยความสุขที่มากขึ้น

27begin_coro-field_8

ที่มาของ Coro Field เริ่มจากการที่สองพี่น้อง “Coro Brothers” หลังจากเรียนจบมา ก็ได้มุ่งมั่นทำธุรกิจด้าน Finance และนวัตกรรมการเกษตร ซึ่งเป็นโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ตราผึ้งมังกรมาสักระยะหนึ่ง และเห็นถึงวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่มีแต่ความเร่งรีบ เต็มไปด้วยการแข่งขัน ทำงานหนักจนบางทีลืมไปว่าความสุขที่แท้จริงในชีวิตคืออะไร จึงมองหาธุรกิจที่ตอบโจทย์ปัญหา Lifestyle คนรุ่นใหม่ เกิดขึ้นเป็น “Coro Field (โคโรฟิลด์)” แหล่งท่องเที่ยวทางการเกษตรรูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า “Lifestyle Farming” ที่ทำให้การเพาะปลูกเป็นเรื่องสนุก ไม่น่าเบื่อ เข้าถึงง่าย ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การปลูก แต่เป็นการสร้างสรรค์และสร้างแรงบันดาลใจแก่คนรุ่นใหม่ เป็นสถานที่พักผ่อน ที่ทำให้รู้สึกว่าเวลาเดินช้าลง แต่ความสุขกลับมีเพิ่มมากขึ้น

ในพื้นที่ 104 ไร่ ของ Coro Field แบ่งการสร้างออกเป็น 4 Phase ซึ่งขณะนี้สร้าง Phase ที่ 1 เสร็จเรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย 4 โซนย่อย คือ Coro Cafe & Market, Coro Me, Coro House และ Coro Garden และกำลังสร้าง Phase ที่ 2 ต่อไป ซึ่งเราจะพาไปชมให้ครบทุกโซนเลย

มาเริ่มที่ Phase ที่ 1 กันก่อนนะ มี 4 โซนย่อย ดังนี้

27begin_coro-field_9
27begin_coro-field_10

1. Coro Cafe & Market แบ่งเป็น 2 โซน คือ
โซน Cafe
มีอาหาร เบเกอรี่ และเครื่องดื่ม ให้เลือกอย่างหลากหลาย เป็นการนำเอาผลผลิต Organic จากฟาร์มที่มีคุณภาพดี มาผสมผสานกับวัตถุดิบชั้นดีอื่น ๆ คิดค้นขึ้นเป็นเมนูสูตรเฉพาะของทางร้าน โดยเชฟทีมชาติไทย

27begin_coro-field_11
27begin_coro-field_12

โซน Market
เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าและผลผลิต Organic จากฟาร์ม ทั้งผลไม้สดและผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ เช่น เมล่อนสายพันธุ์ Hokkaido, มะเขือเทศฮอลแลนด์, แตงโมแอฟริกา, มันเทศญี่ปุ่น, ฟักทองญี่ปุ่น, ผลไม้อบแห้ง, แยมและซอสต่าง ๆ แบบ Homemade ฯลฯ สามารถซื้อกลับไปทาน และเป็นของฝากคนที่คุณรักได้

27begin_coro-field_14

2. Coro Me
เป็นโซนกิจกรรมออกแบบและตกแต่งต้นไม้อย่างอิสระ ตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการของตนเอง ซึ่งต้นไม้ที่ใช้ในกิจกรรมนี้ เป็นไม้ประดับที่ปลูกอยู่ในกระถาง Recycle ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ และกระดาษเหลือใช้ต่าง ๆ เป็นวัสดุหลักในการทำกระถาง จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีน้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นสูง ตกพื้นไม่แตก และระบายความร้อนได้ดี โซนนี้จะมี Artist คอยให้คำแนะนำในการทำกิจกรรมด้วย แบ่งเป็น 3 โซนย่อย ดังนี้

27begin_coro-field_13

Adopt
เป็นโซนให้เลือกต้นไม้ที่ชอบ และนำกลับบ้านได้คนละ 1 ต้น เช่น เฟิร์น, บอนไซ, Cactus ฯลฯ พร้อมใบรับอุปถัมภ์ต้นไม้ คนละ 1 แผ่น จากนั้น ให้ตั้งชื่อต้นไม้ ลงชื่อด้านล่าง และตกแต่งให้สวยงามด้วยตราปั๊มรูปโคโรโระคุงน่ารัก ๆ เพื่อเป็นการให้สัญญาว่า จะดูแลเอาใจใส่ต้นไม้ต้นนี้เป็นอย่างดี

27begin_coro-field_15

GIY (Grow It Yourself)
เป็นมุมประดับและตกแต่งต้นไม้ โดยนำต้นไม้ที่เลือกไว้จากโซน Adopt มาตกแต่งเพิ่มเติมได้ตามใจชอบ ซึ่งมีของประดับไว้ให้เลือกมากมาย เช่น ป้ายชื่อต้นไม้, ตุ๊กตาเซรามิครูปสัตว์ต่าง ๆ, หินกรวด, เม็ดทรายสีสันสดใส ฯลฯ

27begin_coro-field_16

Gift Station
เป็นมุมของฝากสวย ๆ แนว ๆ จาก Coro Field เช่น ตะเกียบไม้, ดินสอไม้, แก้ว, ขวด, ที่คั้นน้ำผลไม้ ฯลฯ ให้เลือกซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึกได้

27begin_coro-field_17

3. Coro House
เป็นโรงเรือน Organic ขนาดใหญ่ ที่ใช้เทคโนโลยีควบคุมการเพาะปลูกด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (Coro Brain) จากประเทศอิสราเอล เน้นปลูกพืชด้วยความใส่ใจ ให้พืชกินดี อยู่ดี มีความสุข ใช้สรรพนามเรียกต้นพืชว่า “เค้า” แทนการเรียกว่า “มัน” เพราะอยากให้ความรู้สึกเสมือนแม่ดูแลลูก ซึ่งคงไม่มีลูกคนใดที่อยากถูกเรียกว่า “มัน” ตั้งแต่เล็กจนโต มีการเปิดเพลงโมสาร์ทให้ฟังเบา ๆ รดน้ำต้นพืชด้วยน้ำแร่ธรรมชาติ ซึ่งเป็นความโชคดีที่ขุดเจอแหล่งน้ำแร่ภายในฟาร์มแห่งนี้ มีผู้เชี่ยวชาญด้านการเพาะปลูกคอยดูแลอย่างใกล้ชิด สามารถควบคุมปริมาณน้ำ ลม แสง อุณหภูมิ ความหวาน และขนาดของลูกได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ และยังเป็นแหล่งให้ความรู้และเทคนิคการเพาะปลูกต่าง ๆ ด้วย ซึ่งภายในโรงเรือนจะปลูกพืช 2 ชนิดหลัก ๆ ดังนี้

27begin_coro-field_18

เมล่อนสายพันธุ์ Hokkaido มีระดับความหวานอยู่ที่ 18.5 Brix มี 2 ชนิด คือ
โทมิเมล่อน (Tomi Melon) เมล่อนเปลือกสีทอง เนื้อสีเขียว กลิ่นหอมฟุ้ง รสชาติหวานหอม เนื้อกรอบ และโยชิเมล่อน (Yoshi Melon) เมล่อนเปลือกสีเขียว เนื้อสีส้ม กลิ่นหอมละมุน รสชาติหวานฉ่ำ เนื้อนุ่ม

27begin_coro-field_19

มะเขือเทศสายพันธุ์ฮอลแลนด์ มีระดับความหวานอยู่ที่ 9.5 Brix มี 2 ชนิด คือ
มะเขือเทศสีแดง (Red Holland Cherry) รูปร่างผลมีลักษณะเป็นทรงกลม เปลือกบาง รสชาติเปรี้ยวอมหวาน หอมกลิ่นมะเขือเทศ และมะเขือเทศสีเหลือง (Yellow Holland Cherry) รูปร่างผลมีลักษณะเป็นทรงวงรี เปลือกหนา รสชาติหวาน แทบไม่มีกลิ่นของมะเขือเทศเลย เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบทานมะเขือเทศ ก็สามารถทานได้

27begin_coro-field_29

4. Coro Garden
เป็นกิจกรรมการปลูกและเก็บเกี่ยวผลผลิตด้วยตนเอง โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้ข้อมูลที่ถูกต้อง แบ่งออกเป็น 2 โซนย่อย ดังนี้

27begin_coro-field_20

Grow Zone
เป็นกิจกรรมเรียนรู้วิธีการปลูกผักด้วยตนเอง โดยเริ่มจากขุดหลุมให้ลึกพอสมควร นำต้นกล้าวางลงไปในหลุม กลบดินให้เรียบร้อย เขียนชื่อลงในแผ่นป้าย แล้วปักไว้ข้าง ๆ ต้นกล้า เมื่อผักเติบโตขึ้นจนเก็บเกี่ยวได้ จะนำไปแบ่งปันให้กับวัด โรงเรียน สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า หรือคนยากไร้ ที่ต้องการนำไปบริโภค เป็นการทำประโยชน์คืนให้กับสังคมด้วย

27begin_coro-field_21

Harvest Zone
เป็นกิจกรรมเรียนรู้วิธีการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ถูกต้องด้วยตนเอง โดยจะมีชะลอมเล็ก ๆ แจกให้คนละ 1 อัน ให้เลือกเก็บมะเขือเทศสีแดงและสีเหลือง ที่สุกพร้อมทานแล้วได้ตามใจชอบ และนำกลับบ้านได้ ซึ่งวิธีการเก็บเกี่ยวมะเขือเทศที่ถูกต้องนั้น จะต้องเก็บพร้อมขั้ว เพื่อยืดอายุในการเก็บรักษา ให้สามารถเก็บไว้ได้นานเป็นสัปดาห์ พร้อมความสดและกรอบอร่อยดังเดิม

ชม Phase ที่ 1 และทำกิจกรรมครบทุกโซนแล้ว พามาชม Phase ที่ 2 กันบ้างดีกว่า ^_^

27begin_coro-field_22

Phase ที่ 2 ประกอบด้วย โรงเรือน Organic ขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ยังไม่เสร็จสมบูรณ์, อาคารควบคุมการเพาะปลูกด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (Coro Brain) และถังพักน้ำแร่ขนาดใหญ่, โรงเรือนอนุบาลต้นกล้า, โรงเรือนเพาะปลูกผักสลัด และโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ตราผึ้งมังกร ซึ่งจะอยู่โซนด้านหลังของฟาร์ม ต้องนั่งรถมาเพื่อเข้าชม เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของอาณาจักร Coro Field จริง ๆ

ทำกิจกรรมและชมฟาร์มมาทั้งวัน ท้องเริ่มแอบร้องเบา ๆ หิวแล้ววว มาหาของอร่อยเพิ่มพลังกันดีกว่า

27begin_coro-field_24

เมนูอาหารใน Coro Cafe มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ ทั้งอาหารฝรั่ง อาหารไทย และอาหารญี่ปุ่น วันนี้เราได้ชิมเมนูอาหารคาว ของหวาน และผลไม้สดครบครัน อิ่มอร่อย ฟินสุด ๆ ^_^

27begin_coro-field_25

Melon Trio และสลัดผัก เสริฟพร้อมน้ำสลัดสูตรพิเศษของทางร้าน มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รสชาติเปรี้ยว หวาน มัน อร่อยกลมกล่อม

27begin_coro-field_26

ข้าวผัดกะเพราเห็ดโคนญี่ปุ่น เสริฟพร้อมไก่ทอดคาราเกะ รสชาติเข้มข้น เผ็ดร้อนจัดจ้านในแบบฉบับไทยแท้ ๆ เมนูนี้อร่อยมาก แนะนำเลย

พาสต้ายากิโซบะ เส้นพาสต้าเหนียวนุ่ม ซอสเข้มข้น รสชาติซอสมีความหวานและเค็มผสมกันอย่างลงตัว หอมอร่อย

27begin_coro-field_27

ทานของคาวเรียบร้อย ตามต่อด้วยของหวานเป็น “นมฮอกไกโด (Soft Serve)” เนื้อเนียนนุ่ม หวานกำลังดี เย็นชื่นใจ

ปิดท้ายด้วย “โทมิเมล่อนสด” หั่นชิ้นตามแนวยาวของลูก แบ่งมาเป็นชิ้นพอดีคำ วิธีการทานเมล่อนที่ถูกต้อง จะต้องเริ่มทานจากตรงกึ่งกลางของชิ้นก่อน เพราะจะมีความหวานมากที่สุด แล้วค่อยทานตรงส่วนอื่นต่อไป ซึ่งเป็นเมล่อนที่หวานมาก หอมมาก อร่อยสุด ๆ ติดใจซื้อกลับมาทานเองและเป็นของฝาก 5 ลูก!

นอกจากนั้น ยังมีเมนูอาหารแนะนำอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีก เช่น Homemade Burger หมูชาชู, Coro Toast, เมล่อนปัง ฯลฯ แค่ชื่อก็น่าทานแล้ว ลองสั่งทานกันดูนะ ไว้เรามาอีกครั้งจะชิมให้ครบทุกเมนูเลย ^_^

27begin_coro-field_23

ขณะนั่งทานอาหารอย่างเพลิดเพลิน หลังคาของ Cafe ก็เลื่อนเปิดออก ว้าววว ดีงามสุด ๆ ถ้าเป็นหน้าร้อนก็ปิดหลังคา เปิดแอร์เย็นสบาย ส่วนหน้าหนาวก็เปิดหลังคารับลมหนาว นั่งทานอาหารชมดาว ชิลล์ดีจริง ๆ

27begin_coro-field_28

ทริปนี้เป็นอีกหนึ่งทริปที่สนุกมาก ได้มาเที่ยวและทำกิจกรรมมากมาย ได้รับความรู้ในการเพาะปลูกพืชแบบ Organic เห็นถึงความตั้งใจและความใส่ใจในการทำฟาร์มยุคใหม่ ให้ออกมาเป็น Lifestyle Farming ที่ทำให้การเพาะปลูกเป็นเรื่องสนุก และเข้าถึงง่ายจริง ๆ

27begin_coro-field_31
27begin_coro-field_32

ใครมาเที่ยวแถวอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี อย่าลืมแวะมา Coro Field ชมฟาร์มเมล่อน Organic กันนะ ไม่เสียค่าเข้าชม แต่อาจจะมีค่าใช้จ่ายในการทำกิจกรรมแต่ละโซน และได้รับของที่ระลึกเก๋ ๆ กลับบ้านด้วย

ลองมาสัมผัสประสบการณ์ใหม่แบบ “Coro Life” การพักผ่อนเติมพลังให้กับชีวิต ที่จะทำให้คุณรู้สึกว่าเวลาเดินช้าลง แต่เต็มไปด้วยความสุขที่มากขึ้น ณ “Coro Field” ^_^

เวลาเปิด-ปิด:
โซน Cafe
วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 17.00 น.
วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 09.00 – 19.00 น.
โซนอื่น ๆ
วันจันทร์ – อาทิตย์ เวลา 09.00 – 17.00 น.
Tel: 092-569-4791
IG: https://instagram.com/corofield/
Twitter: https://twitter.com/corofield
FB: https://www.facebook.com/corofieldTH

สวัสดีค่า เราชื่อ”สุกี้” นะคะ ชอบค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ท่องเที่ยวไปในโลกกว้าง เราจะพยายามหาสิ่งสวยงาม แรงบันดาลใจ และของอร่อย มาให้ทุกคนได้ชม ได้ชิมกันน้า ร่วมพูดคุย แนะนำสิ่งดี ๆ และสถานที่ชิค ๆ ได้ทาง https://www.facebook.com/27Begin ฝากผลงานด้วยนะคะ ขอบคุณค่า ^_^



Other Blog